วันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

Growth Mindset vs Fixed Mindset คุณมีความคิดส่วนใหญ่เป็นแบบไหน? โดย อาจารย์อ๊ะ-สอนธุรกิจให้คิดแบบ Startup

วันนี้ผมอยากให้เพื่อนๆ ที่ทำธุรกิจใดๆ ก็ตามทั้ง SME และคนที่ทำธุรกิจ Startup ปล. โดยเฉพาะคนที่ทำธุรกิจ Startup หรือคนที่กำลังจะทำธุรกิจ Startup ผมอยากแนะนำให้รู้จักกับ 2 Mindset นี้(***หลายคนอาจจะรู้จักแล้วสามารถอ่านข้ามบทความนี้ไปได้ก่อนน่ะครับ...เราไม่ว่ากัน!....แต่ใครที่อยากจะรู้จักแบบลงลึกอีกนิด....ตามผมมาครับ!😀




เรื่อง Mindset(ถ้าจะให้ผมใช้คำภาษาไทยผมอยากจะใช้คำว่า "กรอบแนวคิดหรือมุมมองที่เรามีต่อสิ่งนั้น! ก่อนที่เราจะเริ่มต้นทำอะไรกับมัน!") เช่น
-งานนี้ดูยากเกินไป เราไม่น่าจะทำได้!
-ฉันว่าฉันแก่เกินไปที่จะเรียนรู้สิ่งนั้น!
-ดูนักธุรกิจคนนั้นสิประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 ปี เขาโชคดีจัง!
-ฉันคิดว่างานนี้โหดมากเราอาจจะทำไม่เสร็จแต่เดี๋ยวฉันจะลองหาวิธีอื่นมาช่วยดีกว่า
-ฉันโชคร้ายจังที่ถูกไล่ออกยามวิกฤติโควิดนี้!!
-ตอนนี้ฉันว่างงานเดี๋ยวฉันจะลองฝึกทักษะอะไรใหม่ๆ ช่วงนี้ดีกว่า!
-ออกกำลังกายแค่ 10 นาทีก็ยังดีกว่าไม่ออกเลย!
-งานฉันยุ่งทุกวันฉันไม่มีเวลามาออกกำลังกายหรอกน่ะ!

ถ้าเราสังเกตุคำพูดเหล่านี้ เราก็จะสรุปได้ว่า สุดท้ายเรามักจะตัดสินด้วยคำว่า "ทำได้" กับ "ทำไม่ได้" นั่นเอง! ซึ่งคำว่าทำไม่ได้ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะยังไม่ได้ลองทำหรือยังไม่ได้ลงมือทำเสียด้วย! เพราะสาเหตุว่าเรากลัวจะเจออุปสรรคหรือไม่สามารถทำให้มันสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนั่นเอง!

ดังนั้นจึงเกิด 2 แนวคิดหรือมุมมองที่อยู่ตรงข้ามกันในกรอบความคิดของเราเองอยู่ในหัวเราตลอดเวลาในการที่เราจะตัดสินใจอะไร เราก็มักจะมีแนวโน้มทั้ง 2 แนวคิดที่จะมาคอยสนับสนุนการตัดสินใจของเรานั่นเอง!

ซึ่งถ้าเราเป็นคนประเภทนี้ เช่น
✅ ไม่กลัวความล้มเหลว
✅ ไม่กลัวอุปสรรค
✅ คิดว่าอุปสรรคทำให้เราเติบโตและเก่งขึ้น
✅ ชอบความท้าทายในเป้าหมาย
✅ คิดว่าอย่างน้อยก็ได้ลองทำ
✅ ถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมาถือว่าเป็นประสบการณ์
✅ ไม่ยึดติดกับความสำเร็จในอดีต
✅ ชอบการแข่งขัน(เพื่อเอาชนะอุปสรรค!)
✅ มองการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติ
✅ รักการเรียนรู้ตลอดชีวิต

"ถ้าเรามีคุณลักษณะข้างต้นมากกว่า 7 ใน 10 ข้อ ผมมั่นใจว่าเราจะเป็นคนที่มี Growth Mindset ในตัวเองสูงมาก! เรียกว่า เรามีคุณลักษณะกรอบความคิดของ "ความเป็นไปได้อยู่ตลอดเวลา!" ซึ่งมันตรงข้ามกับคุณลักษณะกรอบความคิดแบบ Fixed Mindset ที่มุ่งแต่ยึดติดกับความคิดเดิมๆ หรือยึดติดกับความสำเร็จเดิมๆ และไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น คนที่มีแนวโน้มว่าเป็นกลุ่มคนที่มี Fixed Mindset สูงก็มักจะเป็นคนประเภทด้านล่างนี้ครับ!

❌ กลัวความล้มเหลว
❌ กลัวอุปสรรค
❌ ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง
❌ ไม่ชอบการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ
❌ ไม่ชอบการแข่งขัน
❌ คิดว่าตัวเองโชคร้ายอยู่ตลอดเวลา
❌ ความผิดพลาดถือว่าเป็นเรื่องใหญ่
❌ กลัวหรืออายที่จะบอกว่าตัวเองผิด
❌ ชอบโทษหรือต่อว่าคนอื่นเสมอ
❌ มีข้ออ้าง 108 เพื่อจะหามาสนับสนุนในการไม่ลงมือทำ

ดังนั้นนักธุรกิจทุกท่านหรือคนที่ทำธุรกิจทุกคนไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ขนาดกลางหรือขนาดเล็กหรือแม้กระทั่งคนที่ทำธุรกิจ Startup ถ้าเจ้าของผู้ประกอบการนั้นๆ หรือผู้ก่อตั้งบริษัท(Founder) ยิ่งมีแนวคิดหรือมุมมองของ Growth Mindset ยิ่งมากเท่าไหร่? องค์กรหรือบริษัทนั้นๆ ก็จะมีแนวโน้มที่จะเติบโตหรือสามารถหาทางออกให้กับปัญหาหรืออุปสรรคที่เกิดขึ้นกับบริษัทของเราได้ในทุกสถานการณ์! 😃☺️

"วันนี้ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจหรือกำลังทำธุรกิจอะไรก็ตาม? หรือมุมมองในการแก้ไขปัญหาส่วนบุคคล" คุณจะต้องเลือกว่าคุณจะมี Mindset แบบไหนมากกว่ากันระหว่าง Growth Mindset vs Fixed Mindset ผมรู้ว่าคุณมีคำตอบอยู่ในใจเรียบร้อยแล้วครับ! 😄

หมายเหตุ: ยังมีหนังสืออีก 2 เล่มที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของ Growth Mindset vs Fixed Mindset ที่ผมอยากให้ทุกท่านในกลุ่มสังคมของผมนี้ลองไปหาอ่านกันเพิ่มเติมได้ครับ!
เล่มที่ 1: ชื่อหนังสือ "Mindset" ของคุณ "Carol S. Dweck" นักจิตวิทยาชื่อดังจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งมีทั้งฉบับแปลไทยและเป็น Version ดั้งเดิมที่เป็นภาษาอังกฤษ

เล่มที่ 2: ชื่อหนังสือ "Hit Refresh" ของคุณ Satya Nadella (สัตยา นาเดลลา) พลิกธุรกิจด้วยวิถีไมโครซอฟท์ เบื้องหลังความสำเร็จของซีอีโอไมโครซอฟท์คืออะไร?
หนังสือ 2 เล่มนี้จะช่วยให้เรามีความเข้าใจในเรื่องของ Mindset ในการบริการจัดการคนหรือบริหารจัดการชีวิตส่วนตัวของเราได้เป็นอย่างดี!

❤️ด้วยความปรารถนาดีจากใจ❤️
🎉 ปล.“ถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้! ฝากกดไลท์(Like) กดแชร์(Share) กดติดตาม(Follow) และพิมพ์คอมเม็นท์ (Comment) มาคุยกันได้น่ะครับ! อ อ๊ะ ยินดีรับฟังทุกคอมเม็นท์จากใจเพื่อทุกคนครับ! 😊🙏🙏😊

โดย อาจารย์อ๊ะ(AjarnAh) 🚀🚀
#อาจารย์อ๊ะสอนธุรกิจให้คิดแบบStartup
#ที่หนึ่งในเรื่องของที่ปรึกษาStartupสำหรับSME

✅ แอดไลน์(Line) เพื่อพูดคุยและรับความรู้ธุรกิจฟรี! ได้ที่! ไลน์ไอดี พิมพ์หา @ajarnah
หรือกดที่ลิงค์นี้ 👇
https://line.me/R/ti/p/@ajarnah
✅ ทัก Inbox ถามทางเพจเฟสบุ๊ค กดลิงค์นี้เลย 👇
m.me/ajarnah
✅ ติดตามช่องTiktok ของ อ อ๊ะ พิมพ์หา @ajarnah
หรือกดที่ลิงค์นี้ 👇
https://vt.tiktok.com/ZSJJV958c/
✅ (ติดตามเว็ปไซต์ อ อ๊ะ)👇
www.ajarnah.com
✅ (ติดตามช่องยูทูป อ อ๊ะ) Youtube กดดูที่ลิงค์นี้ 👇
https://www.youtube.com/user/AH2519
✅(ติดตามช่อง Podcast ของช่อง อ อ๊ะ) กดฟังได้ที่ลิงค์ใน 3 ช่องทางนี้
1. Apple Podcast กดลิงค์นี้ 👇
https://apple.co/3wMjrjN
2. Spotify Podcast กดลิงค์นี้ 👇
https://spoti.fi/3c2wdmm
3. Google podcast กดลิงค์นี้ 👇
https://bit.ly/2SzzVwK

😊++อย่าลืมกดติดตามอาจารย์อ๊ะให้ครบทุกช่องทางเพื่อที่ทุกท่านจะได้ไม่พลาดความรู้ทางด้านการทำธุรกิจ Startup ไว้พัฒนาธุรกิจ SME ของตัวเองกันไว้น่ะครับ! “สะดวกช่องทางไหนสามารถทักมาติชมผมได้ทุกช่องทางครับ” 🙏🎉😊

#อาจารย์อ๊ะ
#ที่หนึ่งในเรื่องของที่ปรึกษาStartupสำหรับSME

#ThePrinceofStartup
#TheRightMindsetTheRightStartup
#สตาร์ทอัพต้องเริ่มต้นที่Mindsetที่ถูกต้องก่อน



วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

"5 ข้อที่ได้เปรียบของ SME เมื่อมาทำธุรกิจ Startup" โดย อาจารย์อ๊ะ-ที่ปรึกษา Startup สำหรับ SME

 

”ทำไมผมถึงต้องเชียร์ SME เวลาที่พวกเขาอยากจะมาปรึกษาหรืออยากทำธุรกิจ Startup แต่น่าเสียดาย! ที่พวกเขาไม่รู้ว่าตัวเองน่ะ…….มีของ!!! 🚀

✅ ใครหลายคนที่เป็น SME มาก่อน!
✅ ใครที่เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก!
✅ ใครที่ทำธุรกิจมานานมากกว่า 5 ปี ขึ้นไป!

🚀 วันนี้…..ต้องมาเจอกับกระแสของคำว่า “สตาร์ทอัพ (Startup)” ถึงกับต้องหลบไปก่อนและคิดว่าเราไม่น่าจะเกี่ยวมันไม่ใช่เรา..สตาร์ทอัพถูกนิยามไว้สำหรับ คนรุ่นใหม่.. ให้เริ่มต้นธุรกิจทำอะไรใหม่ๆ คงไม่ใช่เวทีหรืองานของ SME…………..


     🔥 ผมจะบอกว่า “คิดผิดครับ!” 😢😢 เพราะถ้าคุณเป็น SME มาก่อน! คุณจะมีจุดแข็งอย่างน้อยก็ 1 ใน 5 ข้อที่ผมจะยกมาบอกกับเหล่าชาว SME ทุกคนว่า…”

😊คุณนั่นแหล่ะ! ที่สามารถเริ่มต้นได้ไกลกว่าและเร็วกว่า..คนรุ่นใหม่ที่ยังไม่เคยทำธุรกิจ! มาก่อนเสียอีก!…. ทำไมเหรอครับ? เพราะคุณจะมีจุดแข็งหรือจุดที่ได้เปรียบคนอื่นแบบที่คนอื่นไม่มี(หรือไม่แฟร์กับคนอื่น—-> แต่เป็นสิ่งที่ดีและทำให้เราได้เปรียบคู่แข่งน่ะครับ!)
🚀🚀 หรือที่ทาง Startup เรียกมันว่ามี “Unfair Advantage" นั่นเอง! สิ่งนั้น ยกตัวอย่างก็คือ….

✅ 1. คุณมักจะมีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว!(Own customer) ที่เขาเคยใช้สินค้าและบริการของคุณอยู่ ซึ่งแตกต่างจากการเริ่มต้นในการทำธุรกิจสตาร์ทอัพที่เราต้องทดสอบตลาดไปจนกว่าจะเจอลูกค้าคนแรกที่พร้อมที่จะยอมจ่ายตังค์ให้เรา? หรือต้องปรับรูปแบบธุรกิจจนกว่ารูปแบบธุรกิจโมเดลของเราตอบโจทย์กับลูกค้า(Product market fit) ให้ได้!



✅ 2. คุณมักจะมีประสบการณ์ในวงการธุรกิจของคุณอย่างน้อย 5 ถึง 10 ปี และยิ่งคุณอยู่ในวงการนี้มาก่อน นั่นหมายถึงคุณยิ่งมีสายป่าน Connection ที่มากกว่าเหล่าสตาร์ทอัพน้องใหม่อยู่หลายช่วงตัว! …



✅ 3. คุณจะระมัดระวังการใช้จ่ายเงินของคุณมากกกกก!! ชนิดที่ อะไรไม่คุ้มทุ้นก็จะไม่กล้าทำ…แตกต่างจากเหล่าสตาร์ทอัพ …”ที่มี 100 หมด 100 มีล้าน หมดล้าน เทหมดหน้าตัก เพราะเป็นเงินจากผู้ร่วมลงทุนที่กล้ามาเสี่ยงกับพวกเขา..ดังนั้น โอกาสที่เหล่า CEO ผู้กล้ารับความเสี่ยงทั้งหลายจึงยอมเทหมดใจยังไม่ต้องสนใจเรื่องจุดคุ้มทุน(Break even point) ขอให้เอาจำนวน User เขามาให้ได้ก่อน ขาดทุนชั่งมัน! คำถามผมก็คือ… ชาว SME ส่วนใหญ่ก็เลยระมัดระวังเงินทุกบาททุกสตางค์มากกว่าเหล่าชาวสตาร์ทอัพ! นั่นเอง…ซึ่งผมมองว่ามันดีน่ะครับ 👍😊
🔥 จริงไม่จริงลองค่อยๆ นึกกันดูครับ!
😊



✅ 4. คุณมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน! ขณะที่เหล่าสตาร์ทอัพน้องใหม่จะเอาอะไรมาเป็นหลักทรัพค้ำประกัน ล่ะครับ! ยกเว้นแผน Business Model 10 กว่าหน้าและประเมินมูลค่าบริษัท(Valuation) ไว้ทะลุ 100-200 ล้าน.!! ในอีก 5 ปีข้างหน้า! “โอ้แม่เจ้า พระเจ้าจอร์จ! นายแน่มาก!!😎
ตั้งแต่ผมจำความได้ คำว่า “สินเชื่อ SME” ปัจจุบันนี้ยังคงมีอยู่ แต่ผมยังไม่เคยได้ยิน “สินเชื่อ Startup” มีแต่เหล่าสตาร์ทอัพ ตัองใช้ Pitch desk ไป Raise Fund เองครับ! จะกี่ 10 กี่ร้อยเวทีก็ตามที่กว่าจะเจอ นักลงทุน ที่เห็นดีเห็นงามกับธุรกิจของเราและยอมให้เงินเรามาลงทุน! เพื่อแลกกับหุ้นของบริษัทหรือ Board seat 1 ที่นั่งของบริษัทเราไป! …นี่คือ วิถีของเหล่าชาวสตาร์อัพ!
😎


✅ 5. เจ้าของธุรกิจ SME ส่วนใหญ่จะผูกอำนาจการตัดสินใจและคำสั่งอยู่ที่เจ้าของบริษัทคนเดียว! (จริงและอาจไม่จริง? ลองทบทวนกันอีกรอบน่ะครับ!) แต่การเป็นหัวเรือใหญ่ จำเป็นต้องมีแม่ทัพที่ดีครับ(CEO) ที่ต้อง Lead นำบริษัทให้เกิดผลลัพธ์ อย่างที่เราต้องการให้เร็วที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ประนีประนอมกัน และสามารถนำเอา Stye การบริหารงานแบบนี้มาผลักดันการทำให้ธุรกิจสตาร์ทอัพให้ทำงานได้เร็วกว่า CEO แบบประนีประนอมครับ! 😎✌️
✅ “เพราะอะไรก็ได้? อาจไม่เหมาะกับการทำงานแนวสตาร์ทอัพสักเท่าไหร่ครับ! เพราะสุดท้ายมันต้องทำให้ได้เพื่อแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้จริงๆ ครับ!

😊 ดังนั้น ทั้ง 5 ข้อนี้จึงทำให้คนที่เป็น SME สามารถปรับรูปแบบ Model ธุรกิจจากแนวเติบโตแบบ SME มาเติบโตแบบ Startup ดูบ้าง!ได้ครับ! 🚀😊 และเริ่มได้ทันทีครับ! ไม่ต้องรอเงินทุนมาก(เริ่มจากเล็กๆ ทำทีละส่วน!)
…… ไม่ต้องรอประกวด Pitch แต่เอาเวลาไปจับมือกับนักพัฒนาโปรแกรมรุ่นใหม่ ร่วมมือทำงานกันเป็นทีมแบบนี้จะสามารถเริ่มต้นทำธุรกิจสตาร์ทอัพได้เร็วขึ้นเป็น 10 เท่าครับ!

🔥 ยังไม่ต้องเชื่อบทความนี้ของผมทั้งหมดจนกว่า “คุณได้นำแนวคิดเหล่านี้ทั้ง 5 ข้อไปปรับใช้ในธุรกิจ SME ของคุณดูเองก่อนน่ะครับ!”” 👍👍🙏🙏😊😊

🎉 ปล.“ถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้! ฝากกดไลท์(Like) กดแชร์(Share) กดติดตาม(Follow) และพิมพ์คอมเม็นท์ (Comment) มาคุยกันได้น่ะครับ! อ อ๊ะ ยินดีรับฟังทุกคอมเม็นท์จากใจเพื่อทุกคนครับ! 😊🙏🙏😊

❤️ด้วยความปรารถนาดีจากใจ❤️
โดย อาจารย์อ๊ะ(AjarnAh) 🚀🚀
#ที่หนึ่งในเรื่องของที่ปรึกษาStartupสำหรับSME

✅ แอดไลน์(Line) เพื่อพูดคุยและรับความรู้ธุรกิจฟรี! ได้ที่! ไลน์ไอดี พิมพ์หา @ajarnah
หรือกดที่ลิงค์นี้ 👇

✅ ทัก Inbox ถามทางเพจเฟสบุ๊ค กดลิงค์นี้เลย 👇

✅ ติดตามช่องTiktok ของ อ อ๊ะ พิมพ์หา @ajarnah
หรือกดที่ลิงค์นี้ 👇

✅ (ติดตามเว็ปไซต์ อ อ๊ะ)👇

✅ (ติดตามช่องยูทูป อ อ๊ะ) Youtube กดดูที่ลิงค์นี้ 👇

✅(ติดตามช่อง Podcast ของช่อง อ อ๊ะ) กดฟังได้ที่ลิงค์ใน 3 ช่องทางนี้

1. Apple Podcast กดลิงค์นี้ 👇

2. Spotify Podcast กดลิงค์นี้ 👇

3. Google podcast กดลิงค์นี้ 👇

😊++อย่าลืมกดติดตามอาจารย์อ๊ะให้ครบทุกช่องทางเพื่อที่ทุกท่านจะได้ไม่พลาดความรู้ทางด้านการทำธุรกิจ Startup ไว้พัฒนาธุรกิจ SME ของตัวเองกันไว้น่ะครับ! “สะดวกช่องทางไหนสามารถทักมาติชมผมได้ทุกช่องทางครับ” 🙏🎉😊